วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

 ยาย้อมผม

                                   


ยาย้อมผมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนสีผม ทั้งเพื่อทำให้ดูอ่อนกว่าวัยจากการเปลี่ยนผมสีเทาหรือขาวให้เป็นสีเดิม หรือเพื่อความสวยงามตามแฟชั่น ดังนั้นยาย้อมผมจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ตั้งแต่วัยรุ่นถึงผู้สูงอายุ ทั้งเพศหญิงและชาย 


ยาย้อมผมคืออะไร

ยาย้อมผมอาจเปลี่ยนสีผมเพียงชั่วคราว หรือเปลี่ยนสีผมอย่างถาวร (จนกว่าจะมีผมงอกขึ้นมาใหม่) ซึ่งผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในท้องตลาด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

       1. ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว ประกอบด้วยสีที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ เคลือบบนชั้นนอกของเส้นผม ซึ่งสีนี้จะหลุดออกภายหลังจากการสระผมด้วยแชมพูเพียงครั้งหรือสองครั้ง

       
2. ยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวร ประกอบด้วยสีที่มีขนาดโมเลกุลเล็กซึ่งสามารถซึมเข้าไปถึงชั้นกลางของเส้นผมได้ สีจะคงทนได้นาน 3-5 สัปดาห์

       
3. ยาย้อมผมชนิดถาวร ยาย้อมผมชนิดนี้ติดทนบนเส้นผมและทนต่อการสระด้วยแชมพู ซึ่งยาย้อมผมชนิดถาวรนี้มี 2 ชนิด คือ ยาเคลือบสีผม ซึ่งสีจะสะสมที่ชั้นนอกของเส้นผมเท่านั้น (โดยสีที่ใช้มี 3 ประเภท ได้แก่ สมุนไพรย้อมผม เกลือโลหะย้อมผม และสีผสม) และอีกชนิดหนึ่ง คือ ยาย้อมผมชนิดที่ซึมเข้าเส้นผม ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในการเปลี่ยนสีผม ยาย้อมผมชนิดนี้ประกอบด้วยน้ำยา 2 ขวด คือ

       
ขวดที่ 1 ครีมสี เป็นของเหลวหรือครีม ซึ่งประกอบด้วยสีที่ใช้ในการเปลี่ยนสีผม ที่เรียกว่า สีออกซิเดชัน หรือสีพารา ได้แก่พาราฟีนิลีนไดอะมีน (p-Phenylenediamine, PPD) และ พาราโทลูอีนไดอะมีน (p-Toluenediamine, PTD) ซึ่งอยู่ในสภาวะด่างจากการเติม แอมโมเนีย (Ammonia) ด่างทำให้ชั้นนอกของเส้นผมบวม พอง และแยกออกทำให้สีซึมเข้าสู่ชั้นกลางของเส้นผม แต่ถ้าน้ำยาเป็นด่างมากจะละลายชั้นนอกของเส้นผม ทำให้ผมหยาบกระด้าง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว ที่ช่วยให้สีซึมเข้าเส้นผมได้ดี และสารที่ทำให้ข้นเพื่อให้สีไม่ไหลออกจากเส้นผม

       
ขวดที่ 2 น้ำยาโกรก ประกอบด้วย 6% ของ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซึ่งทำหน้าที่ออกซิไดซ์สีพาราให้เกิดสีย้อมผม หากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีความเข้มข้นมากกว่า 6% จะทำลายเส้นผมและระคายเคืองหนังศีรษะ แต่ถ้าความเข้มข้นต่ำกว่านี้ก็จะไม่สามารถออกซิไดซ์สีพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการใช้ยาย้อมผมชนิดนี้ต้องผสมน้ำยาทั้ง 2 ขวดทันทีก่อนใช้ย้อมผม เพื่อให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ปล่อยออกซิเจนอิสระไปออกซิไดซ์สีพาราให้เกิดสีสำหรับการเปลี่ยนสีผม







ผลกระทบของสารต่อร่างกาย

       อาการแพ้ที่พบ ได้แก่ การระคายเคืองผิวหนังและตา หากโดนผิวหนังให้ล้างออกด้วยน้ำและสบู่ หากกระเด็นเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำ
 ทำให้เกิดอาการแพ้ในผู้ใช้ อาการแพ้ที่พบ ได้แก่ หน้าและคอบวม ผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ แสบร้อน หากโดนตาทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ตาบวม หากสูดดมทำให้ไอ จาม วิงเวียนและหายใจไม่ออก 

       สารเคมีหลายตัวในยาย้อมผมอาจทำให้เกิดอาการผื่นคัน โดยเฉพาะ PPD ทำให้เกิดอาการแพ้ในผู้ใช้ยาย้อมผมส่วนใหญ่ ลักษณะผื่นแพ้อาจเป็นผื่นแดง หรือตุ่มน้ำใสเล็กๆ คันมาก และจะขึ้นเฉพาะที่บริเวณที่สัมผัสถูกยาย้อมผม ตุ่มน้ำใสอาจรวมกันจนเป็นตุ่มพองใหญ่ เมื่อแตกออกจะมีน้ำเหลืองไหล เมื่ออาการดีขึ้น ผิวหนังอาจแห้งเป็นขุย หรือหนาตัวขึ้น อาจมีสีคล้ำลง หรือเป็นรอยด่างขาวชั่วคราว เมื่อมีอาการคันไม่ควรเกาจนเป็นแผลเพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

        การรักษาผื่นแพ้จากการสัมผัส ขั้นแรก คือ การหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หากอาการแพ้เกิดขึ้นแล้วให้ชะแผลด้วยน้ำเกลือ แล้วเช็ดให้แห้ง ทาด้วยครีมสเตียรอยด์ แต่ถ้าเป็นบริเวณกว้างควรกินยาแก้แพ้ร่วมด้วย ถ้ามีหนองหรือน้ำเหลือง ให้ยาปฏิชีวนะรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย


ข้อควรระวังในการใช้ยาย้อมผม

   
    - ไม่ควรย้อมผมหากมีแผลบนศีรษะ
       - ทดสอบการแพ้ก่อนย้อมผม 24-48 ช.ม.
       - สวมถุงมือยางขณะทำการย้อมผม
       - ทำตามวิธีใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์
       - ให้หยุดใช้ และล้างออกด้วยน้ำทันที เมื่อมีอาการคัน ผื่นแดง ปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่ใช้ หรือที่ถูกน้ำยา
       - เก็บผลิตภัณฑ์ย้อมผมในที่มืด และเย็น
       - ไม่เทน้ำยาผสมที่เหลือกลับขวด เนื่องจากภาชนะบรรจุอาจระเบิด ให้ทิ้งในที่ที่เหมาะสม
       - ไม่ใช้ยาย้อมผม ย้อมขนตา หรือขนคิ้ว เพราะอาจทำให้ตาบอด
       - หญิงมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาย้อมผม 










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ สมัยนี้ อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดกันไป ซื้อหลอดไฟยังเลือกหลอดประหยัดไฟเลยค่ะ แต่ระวังให้ดีนะคะ หลอดประหยัดไฟ (...